เกี่ยวกับ PJA News Thai กรุณาคลิกที่แท็บ “PJA NEWS Thai” ที่ด้านซ้าย
12th Mar ,2020, PJA NEWS <Thai>)
รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความร่วมมือสนับสนุนโครงการ “The Project for Providing a Pickup Truck for Child Protection Operations in Sangklaburi District, Kanchanaburi Province”
รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนเงินทุนจำนวนทั้งสิ้น 911,500 บาทแก่โครงการ “The Project for Providing a Pickup Truck for Child Protection Operations in Sangklaburi District, Kanchanaburi Province” ผ่านความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแบบให้เปล่าเพื่อพื้นฐานและความมั่นคงของมนุษย์ (จีจีพี) โดยมีพิธีลงนามข้อตกลงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2563 ระหว่าง ฯพณฯ นายคะซุยะ นะชิดะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ นายวิวัฒน์ ธนาปัญญาวรคุณ ประธานมูลนิธิวันสกาย ณ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย]
อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศพม่า ในแต่ละวันมีแรงงานต่างชาติ(ชาวมอญ คนพม่า ชาวกระเหรี่ยง)มากกว่า 6,000 คน เดินทางมาทำงานในโรงงานและพื้นที่เกษตรกรรมในประเทศไทยและได้รับค่าจ้างเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท(ประมาณ 10,260 เยน) ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำของแรงงานไทย นอกจากนี้ ถนนไม่ลาดยางในอำเภอดังกล่าวยังมีปัญหาการจราจรในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม
ด้วยปัญหาค่าใช้จ่ายที่ไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานในครอบครัวของแรงงานต่างชาติจึงเกิดปัญหาในครอบครัวและสังคมที่เกี่ยวข้องกับเด็กเป็นจำนวนมาก เช่น การปล่อยปละละเลยเด็กในครอบครัว การลักพาตัว การใช้ยาเสพติด การใช้ความรุนแรงในครอบครัว การข่มขืน เป็นต้น อันที่จริงแล้วทางตำรวจและหน่วยพยาบาลฉุกเฉินมีหน้าที่ต้องเข้าไปช่วยเด็กต่างชาติเหล่านี้ แต่ด้วยข้อจำกัดทางภาษาจึงไม่สามารถช่วยเหลือได้เต็มที่ ทำให้ต้องประสานงานกับองค์กรภายนอกอย่างเช่น มูลนิธิวันสกาย โดยให้ข้อมูลและให้ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังแจกอาหารเดือนละ 2 ครั้งสำหรับครอบครัวแรงงานต่างชาติที่มีรายได้ลดลงจากปัญหาการว่างงาน เจ็บป่วย มีผู้สูงอายุ เป็นต้น
มูลนิธิวันสกายเป็นองค์กรที่ประสานงานกับตำรวจ สถานศึกษา และสถานพยาบาลเพื่อช่วยเหลือเด็กในอำเภอสังขละบุรีในด้านการรับเด็กออกจากพื้นที่เสี่ยง ช่วยเหลือให้กลับมาใช้สังคมได้ตามปกติ รวมถึงรับส่งเด็กจากบ้านไปสถานพยาบาล ด้วยรถจักรยานยนต์ 4 คันและรถกระบะที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริจาค 1 คัน แต่ทว่า รถจักรยานยนต์ 2 ใน 4 คันและรถกระบะคันดังกล่าวไม่สามารถใช้ลงพื้นที่ในช่วงฤดูฝนได้ ทำให้เข้าไปช่วยเหลือเด็กได้ช้าหรือช่วยไม่สำเร็จ ซึ่งแต่ละปีมีกรณีที่ช่วยไม่สำเร็จมากกว่า 50 กรณี(นับเป็นจำนวนเด็กมากกว่า 100 คน)ต่อปี ทางมูลนิธิจำเป็นต้องหารถกระบะมาเพื่อเพิ่มกำลังการช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถระดมทุนเพื่อรถกระบะคันใหม่ได้
ด้วยเหตุนี้ ทางรัฐบาลญี่ปุ่นเล็งเห็นว่า การสนับสนุนรถกระบะสำหรับการคุ้มครองเด็กจำนวน 1 คัน จะช่วยให้เด็กต่างชาติที่ประสบปัญหาได้รับการช่วยเหลือและการคุ้มครองที่ปลอดภัย และช่วยพัฒนาการคุ้มครองเด็ก จึงได้สนับสนุนโครงการดังกล่าว
タイ情報で、にほんブログ村ランキングに参加中! 見ていただいた記事には、是非以下にクリックをお願いします。