การวิพากย์วิจารณ์เรื่องการเปิดเผยภาพและชื่อของ หญิงสาวชาวไทย อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นเวลายาว นานด้วยฝีมือของ “WiSE รายสัปดาห์”

(PJA NEWS Thai)
เกี่ยวกับ PJA News Thai กรุณาคลิกที่แท็บ “PJA NEWS Thai” ที่ด้านซ้าย

22th Oct, PJA NEWS <Thai>)

การวิพากย์วิจารณ์เรื่องการเปิดเผยภาพและชื่อของ หญิงสาวชาวไทย อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นเวลายาว นานด้วยฝีมือของ “WiSE รายสัปดาห์”

บทความนี้เผยแพร่โดย “Tablo” ข่าวญี่ปุ่น
แปลจากภาษาญี่ปุ่นเป็นไทย

Tablo)<Japan>การวิพากย์วิจารณ์เรื่องการเปิดเผยภาพและชื่อของ หญิงสาวชาวไทย อาชญากรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นเวลายาว นานด้วยฝีมือของ “WiSE รายสัปดาห์”
https://tablo.jp/archives/15933

นิตยสารแจกฟรี (ถ่ายทำโดยกองบรรณาธิการ)
ที่ไม่ว่าใครก็รู้ซึ่งมักถูกวางไว้ในโรงแรมของไทย

มีสื่อที่เป็นนิตยสารแจกฟรีและได้รับการตีพิมพ์ที่กรุ งเทพฯในประเทศไทย เป็นสื่อที่นำเสนอเรื่องงานอดิเรกหรือความบันเทิง, ข่าว, ร้านอาหาร, การซื้อขาย, ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นไปที่คนญี่ปุ่นที่อาศัยในเมืองไทย และยังเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ของญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุดที่ตีพิมพ์ ในไทย โดยตีพิมพ์ถึง 32,000 เล่มทุกสัปดาห์

สื่อรายนี้ “WiSE รายสัปดาห์” (https://www. wisebk.com/?) ซึ่งตอนนี้กำลังก่อปัญหาให้กับไทยซึ่งเป็นหนึ่งในป ระเทศที่เป็นมิตรกับญี่ปุ่น

ความคิดเห็นทั้งหมดเหล่านี้เป็นแบบประสาทหลอน

WiSEได้ทำการสัมภาษณ์และเช็คแฟชั่นของสาวส วยคนไทย
ในคอลัมน์ “Chao! Bambina” ได้มีการตีพิมพ์รูปถ่ายและชื่อของสาวๆว่า “แต่งตัวจัดเต็มแต่ล้าสมัยสุดๆ เห็นแล้วอายแทน”, “หน้าแก่!” เขียนบทความวิจารณ์เกี่ยวกับการแต่งตัวและรูปลัก ษณ์ที่ทำให้ผู้อื่นโดนหัวเราะเยาะ แล้วเผยแพร่ต่อให้กับคนญี่ปุ่น มีคนญี่ปุ่นหลายคนที่เห็นบทความนี้แล้วหัวเราะสนุ กสนาน

WiSE ได้ตีพิมพ์บทความลักษณะนี้เป็น “บทความต่อเนื่อง” มาเป็นเวลานาน หญิงสาวคนไทยผู้เสียหายที่ให้สัมภาษณ์ด้วยเจตน าดีโดยไม่รู้เรื่องอะไรก็มีจำนวนมากเช่นกัน

เนื้อหาบทความของ “WiSE” ในตอนนี้ก็เช่นกัน เนื้อหาของบทความมีบางส่วนที่ไม่ดีต่อผู้หญิงคนไ ทย และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจนเป็นปัญหาขึ้น มา

และคนที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้คนแรกก็คือคุณ A คนญี่ปุ่น ผู้เปิดโรงเรียนสอนภาษาในประเทศไทย และได้โพสต์บทความตามด้านล่างนี้ในอินเตอร์เน็ต

“พวกคนญี่ปุ่นที่หลอกและหัวเราะใส่คนไทยอย่างส นุกสนาน”
(URL https://note. mu/sabaithailang/n/nb353a2f21857 )

“คนไทยธรรดาๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ถูกปิดบังจุดประสงค์ที่แท้จริงในการสัมภาษณ์ และถูกดูหมิ่นในนิตยสารที่ตีพิมพ์ไปกว่า 30,000 ฉบับ

นอกจากนี้ยังมีบางคนที่สแกนลงมือถือและโพสต์ใน ทวิตเตอร์ “ปากร้ายจัง ค่อนข้างน่าขำ 555” เป็นเรื่องหัวเราะกันสนุกสนานในกลุ่มคนญี่ปุ่น

เป็นเรื่อง “Hiretsu” (ตํ่าช้าที่สุด)

เขาอาจจะคิดว่า “ถึงยังไงก็ไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นหรอก555”

ตามบทความนี้ที่ถูกเขียนลงในบล็อกส่วนตัวเมื่อ 5 ปีก่อน วันที่ 6 กุมภาพันธ์ ปี 2014 ได้เขียนไว้ว่ามีหญิงสาวชาวไทยซึ่งเป็นนักเรียนขอ งผู้เขียนบล็อก ได้ล้มป่วยเพราะสาเหตุนี้อยู่ ตามบทความด้านล่าง

“Bambina น่าขยะแขยงจัง”

ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องแฟชั่นคงจะไม่มีปัญ หาอะไร แต่คนพวกนี้กลับตัดสินอะไรตามใจชอบโดยที่ไม่รู้อ ะไรสักอย่างเลยแท้ๆ ตัวอย่างเช่น “ชอบผู้ชายไม่ใช่หรอ” หรือว่า “เป็นใบหน้าที่ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่เบื้องหลังกันแ น่นะ” ทำไมถึงได้พูดจาอวดเก่งแบบนั้น ก่อนจะเปิดผ่านคอลัมน์นี้ไปโดยไม่อ่านเลย

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นก็คือ หนึ่งในผู้เสียหายเป็นนักเรียนที่เคยสอนอยู่

นักเรียนคนนั้นโกรธจัดและพูดว่า “ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นสักหน่อย”

หรือก็คือมีการปลอมแปลงบทสัมภาษณ์ และยังมีคำวิจารณ์ที่เป็นการซํ้าเติมบาดแผลเข้าไป อีก

จนในที่สุดนักเรียนคนนั้นก็ป่วย

WiSEได้ลงโฆษณาเชิญชวนให้ไปที่ WiSE Biz

ตามบทความด้านบน WiSE ได้เชิญชวนว่าถ้าอยากดูรูปอื่นๆของหญิงสาวเหล่า นี้ ให้เข้าไปดูที่ WiSE Biz เว็บไซต์ของ WiSE ที่เน้นไปที่บริษัทญี่ปุ่น และนี้คือการทำธุรกิจของ WiSE

ทำไมคุณถึงนำไปสู่เว็บไซต์

WiSE ถูกวิพากษ์วิจารณ์ และมีการทวีตลงทวิตเตอร์ตามด้านล่าง

เกี่ยวกับคอลัมน์ “Chao! Bambina” ของเรา

ต้องขออภัยท่านผู้เสียหายและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านเ ป็นอย่างยิ่งเกี่◌่ยวกับเรื่อง “การวิพากษ์วิจารณ์ที่รุนแรง” อันเกินควร ตอนนี้ทางเรากำลังติดต่อผู้เสียหายอยู่ และขอแจ้งให้ทราบว่าคอลัมน์นี้ได้ถูกระงับและลบอ อกไปแล้ว WiSE รายสัปดาห์” (ที่มาจากทวิตเตอร์)

ไม่มีการเขียนถึงว่าอะไรที่เป็นสาเหตุของปัญหานี้ ไม่เขียนถึงผู้รับผิดชอบ ไม่มีการเขียนถึงการป้องกันหากเกิดเหตุการณ์แบบ นี้ขึ้นอีก และทวีตนี้ก็จบในทวีตเดียว แล้วคำวิพากษ์วิจารณ์ก็เพิ่มขึ้นอีก หากพูดในมุมมองของสื่อญี่ปุ่น ไม่มีใครคิดว่าการขอโทษแค่นี้มันเพียงพอ ถึงยังไงมันก็ไม่พอ

เรื่องที่น่ากลัวก็คือ ในตอนนี้ สื่อไทยก็เริ่มรู้สึกถึงความวุ่นวายนี้แล้ว และเริ่มทำการเก็บข้อมูลและสัมภาษณ์

(ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์นี้)
ส่วนหนึ่งของคนญี่ปุ่นที่โกงและหัวเราะกับคนไทยอย่างสนุกสนาน

เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ TABLOได้ทำการติดต่อสัมภาษณ์ WiSE แต่ถึงวันนี้วันที่ 12 ตุลาคม แม้จะถึงกำหนดตอบกลับแล้ว ก็ยังไม่มีคำตอบอะไรกลับมา (สัมภาษณ์ /โดยกองบรรณาธิการ)